พล.ต.ท.อุดม เจริญ: ในโอกาสนี้กระผม พล.ต.ท.อุดม เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ ซึ่งได้เดินทางมา ณ โอกาสนี้ เพื่อจะกราบนมัสการ ในการที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้อนุมัติให้กระผมไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในวันที่ ๑ ตุลาคมนี้
กระผมมีความรู้สึกเป็นสิริมงคลยิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้ว่าตัวเองมีความรู้น้อย ปัญญาน้อย จึงใคร่มากราบขอความเมตตาจะได้ช่วยกรุณาแนะนำสั่งสอน ในโอกาสที่กระผมจะไปดำรงตำแหน่งนี้ว่า จะมีแนวทางประการใด ที่จะทำให้พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง ในหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แค่ไหน เพียงใด
กระผมใคร่ขอกราบอยากขอคำแนะนำ ขอความเมตตาได้ช่วยโปรดกรุณาแนะนำกระผมในประเด็นดังกล่าว สุดแต่จะเห็นเป็นการสมควร
พระธรรมปิฎก: ขออนุโมทนาท่าน พล.ต.ท.อุดม เจริญ พร้อมทั้งคณะ ที่ได้มารับงานพระศาสนาที่สำคัญ
ที่จริงนั้น ตัวท่านนายพลเองก็มีประสบการณ์มามาก ในเรื่องของงานพระศาสนา โดยเฉพาะเจาะจงที่เรื่องของการศึกษา-ปฏิบัติ เห็นได้ชัดตอนที่ท่านเป็นผู้บัญชาการศึกษา ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านมีความเอาใจใส่ให้ตำรวจได้รับการศึกษาอบรมในเรื่องธรรมะอย่างมากมาย อันนี้ก็เป็นประสบการณ์สำคัญ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการทำงาน
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวท่านเอง เป็นผู้ที่สนใจในเรื่องการปฏิบัติอยู่แล้ว ก็เพราะท่านเองสนใจโดยส่วนตัวนั่นแหละ จึงนำมาสู่การเห็นคุณค่าและประโยชน์ แล้วก็อยากจะให้ประโยชน์นั้นเกิดขึ้นแก่ผู้อื่น ซึ่งหมายถึงชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบตอนนั้น ก็คือตำรวจทั้งหลาย และกว้างออกไปคือสังคมประเทศชาติ จึงได้ขวนขวายในเรื่องการจัดการศึกษาอบรมอย่างที่กล่าว
ประสบการณ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว จะมาเป็นทุนก็ได้ เป็นฐานก็ได้ ในการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป เพราะว่า ในงานพระศาสนานั้น โดยเนื้อหาสาระแล้ว การศึกษาหรือการศึกษาปฏิบัตินี้ เป็นเนื้อแท้ และงานที่ท่านทำก็ตรงทีเดียว