การสื่อภาษาเพื่อเข้าถึงสัจธรรม

Somdet Phra Buddhaghosacariya (P. A. Payutto)

บทสรุป

เรื่องที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ย่อมสรุปลงในหลักการใหญ่ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว คือต้องโยงเข้าหาจุดสัมพันธ์ในระบบชีวิตของมนุษย์ ปัญญาที่เห็นสอดคล้องกับสัจธรรม ซึ่งจะพัฒนาขึ้นไปจนเป็นปัญญาที่รู้แจ้งเข้าถึงสัจธรรมนั้น เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ปัจจัยที่จะให้เกิดสัมมาทิฏฐินั้นมี ๒ อย่าง คือปัจจัยภายนอก ได้แก่เสียงบอกเล่าคำกล่าวสอนจากผู้อื่น (ปรโตโฆสะ) โดยเฉพาะจากกัลยาณมิตร และปัจจัยภายใน ได้แก่การรู้จักคิดพิจารณาด้วยตนเอง (โยนิโสมนสิการ)

ปัจจัยภายนอกนั้นก็คือการสื่อภาษา ซึ่งสำคัญมาก แต่ตัวบุคคลก็จะต้องมีปัจจัยภายใน คือ โยนิโสมนสิการด้วย จึงจะทำให้ภาษาที่สื่อสำเร็จประโยชน์ในการเข้าถึงสัจธรรมได้จริง

ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในนี้ มาประสานกันเชิงปฏิบัติการในกระบวนการที่ทำให้ความรู้ความเข้าใจเจริญเพิ่มพูนยิ่งขึ้นๆ จนกลายเป็นปัญญาที่เข้าถึงสัจธรรมกระบวนการนี้ดำเนินไปโดยอาศัยการสืบทอดต่อกันขององค์ประกอบ ๔ อย่าง ที่สัมพันธ์ส่งผลอุดหนุนกันเป็นระบบ องค์ประกอบ ๔ อย่างชุดนี้ ท่านเรียกว่า ปัญญาวุฒิธรรม กล่าวคือ

๑. การเข้าหาแหล่งความรู้ที่เชื่อถือหรือไว้ใจได้ (สัปปุริสสังเสวะ—การเสวนาสัตบุรุษ)

๒. ความขยันหมั่นเพียรและรู้จักรับข่าวสารข้อมูลที่สื่อผ่านแหล่งความรู้นั้นๆ (สัทธัมมัสสวนะ—การสดับพระสัทธรรม)

๓. การรู้จักมอง รู้จักคิดพิจารณาวิเคราะห์สืบสาวเชื่อมโยงเป็นต้นที่จะหาความจริงและใช้ประโยชน์จากข่าวสารข้อมูลที่สื่อกันนั้นได้ (โยนิโสมนสิการ—การทำใจให้แยบคาย)

๔. การลงมือปฏิบัติ หรือทำการให้เป็นไปอย่างมีความประสานสอดคล้องกันระหว่างองค์ประกอบทั้งหลายในระบบ ทั้งที่เป็นหลักการ วิธีการ และจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรงที่จะนำสู่การเข้าถึงสัจธรรมในที่สุด (ธัมมานุธัมมปฏิบัติ—การปฏิบัติองค์ธรรมย่อยโดยสอดคล้องกับหลักใหญ่) ในองค์ประกอบ ๔ อย่างนั้น สองข้อแรก เป็นฝ่ายปัจจัยภายนอกที่จะติดต่อผ่านสื่อภาษา สองข้อหลัง เป็นฝ่ายปัจจัยภายในของตนเองที่ต้องการจะเข้าถึงธรรม

ในองค์ประกอบ ๒ ข้อของฝ่ายปัจจัยภายนอกนั้น ข้อแรกที่ว่าเป็นแหล่งความรู้ที่เชื่อถือไว้ใจได้ ก็คือบุคคลที่มีประสบการณ์ตรงจากการเข้าถึงสัจธรรมด้วยตนเองแล้ว ซึ่งเป็นฐานรองรับการสื่อภาษาในข้อที่ ๒ ทำให้การสื่อภาษานั้นมีความหมายเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในการเข้าถึงสัจธรรม

ส่วนในองค์ประกอบสองข้อของฝ่ายปัจจัยภายใน ข้อ ๓ เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องได้ผลต่อข้อมูลข่าวสารที่ผ่านการสื่อภาษามาถึงตนซึ่งนำไปสู่ข้อ ๔ ที่จะช่วยให้ได้ประสบการณ์ตรงในการเข้าถึงสัจธรรม

โดยนัยนี้ การสื่อภาษาเพื่อเข้าถึงสัจธรรม ในขั้นพื้นฐานก็คือการที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในการเข้าถึงสัจธรรมของบุคคลหนึ่ง (ในข้อ ๑) ไปยังอีกบุคคลหนึ่ง เพื่อให้บุคคลผู้นั้นเข้าถึงสัจธรรมด้วยประสบการณ์ตรงด้วย (ในข้อ ๔) ในแง่นี้ ข้อ ๑ และ ๔ เป็นเรื่องของประสบการณ์ตรง ส่วนข้อ ๒ และ ๓ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยประสบการณ์ตรงของบุคคลหนึ่ง (ข้อ ๑) ช่วยนำอีกบุคคลหนึ่งไปถึงจุดหมายแห่งการได้ประสบการณ์ตรงนั้นนั่นเอง (ข้อ ๑)

ในกระบวนการพัฒนาปัญญาที่ดำเนินไปในระบบความสัมพันธ์อย่างถูกต้องนี้ จะเห็นว่ามีการประสานเกื้อหนุนกัน ทั้งระหว่างปัจจัยภายในกับปัจจัยภายนอก และระหว่างข้อมูลหรือสิ่งสดับผ่านสื่อภาษากับประสบการณ์ตรงในการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้ความรู้ข้อมูลเบื้องต้น พัฒนาขึ้นไปเป็นความรู้ความเข้าใจถูกต้องสอดคล้องกับสัจธรรมที่เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ทำให้สัมมาทิฏฐินั้นพัฒนาต่อไปๆ จนกลายเป็นปัญญาที่เข้าถึงสัจธรรม

ปัจจัยอุดหนุนนั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๕ อย่าง ซึ่งเป็นเรื่องขององค์ประกอบด้านต่างๆ ของชีวิตของคนนั่นเองที่จะต้องมาสัมพันธ์ในลักษณะที่ส่งผลเกื้อหนุนต่อกันอย่างสอดคล้อง เมื่อการสื่อภาษาดำเนินไปโดยวิธีที่ถูกต้อง และประสานเข้ากับระบบสัมพันธ์แห่งการพัฒนาชีวิตของคน ก็สามารถนำสู่ผลคือ การเข้าถึงสัจธรรม ปัจจัยอุดหนุน ๕ ประการนั้น คือ

๑. พฤติกรรมที่เกื้อหนุน (ศีล)

๒. ข้อมูลความรู้ที่ถ่ายทอดบอกกล่าวเล่าเรียนสดับฟัง (สุตะ)

๓. การสนทนา ถกเถียง อภิปราย (สากัจฉา)

๔. การพัฒนาคุณภาพ สมรรถภาพ และสุขภาพของจิตใจ (สมถะ)

๕. การพัฒนาปัญญาให้มองเห็นโลกและชีวิตตามเป็นจริง (วิปัสสนา)

เมื่อการสื่อภาษาด้วยสุตะและสากัจฉา ประสานเข้ากับกระบวนการพัฒนาชีวิตที่สัมพันธ์กันครบถ้วนทั้งระบบคือทั้งพฤติกรรม จิตใจ และปัญญา ก็จะอุดหนุนปัญญาที่เห็นสอดคล้องกับสัจธรรม คือ สัมมาทิฏฐิให้พัฒนาขึ้นไปจนเป็นปัญญาที่เข้าถึงสัจธรรม อันจะส่งผลต่อชีวิต ทำให้เข้าถึงสันติสุขและอิสรภาพที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นเกณฑ์ตรวจสอบและวัดผลไปด้วยในตัวว่า เป็นการเข้าถึงสัจธรรมที่จริงแท้

เมื่อการสื่อภาษาช่วยให้ชีวิตพัฒนาเข้าถึงสันติสุขและอิสรภาพที่แท้จริงแล้ว การสื่อภาษาเพื่อเข้าถึงสัจธรรมก็บรรลุจุดหมาย

การปาฐกถาครั้งนี้จึงจบลงได้ ด้วยประการฉะนี้.

The content of this site, apart from dhamma books and audio files, has not been approved by Somdet Phra Buddhaghosacariya.  Such content purpose is only to provide conveniece in searching for relevant dhamma.  Please make sure that you revisit and cross check with original documents or audio files before using it as a source of reference.